วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ขอเชิญประกวดภาพยนตร์สั้นศาลปกครอง

          สำนักงานศาลปกครอง ได้จัดการประกวดภาพยนตร์สั้นศาลปกครอง ในหัวข้อ เล่าเรื่องคดีปกครอง ท้าประลองทำหนังสั้น โดยเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดอายุ สมัครเข้าแข่งขันแบบเดี่ยว หรือทีมก็ได้ โดยหากสมัครเป็นทีม ต้องมีทีมงานไม่เกิน 5 คน ไม่รวมนักแสดง ส่งผลงานเข้าประกวดตามหัวข้อดังกล่าว เพื่อเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มนักเรียน ประชาชน ในแสดงศักยภาพ รวมถึงการได้เรียนรู้เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับศาลปกครองและคดีปกครอง สำหรับผู้สนใจสามารถดาว์นโหลดใบสมัครส่งภาพยนตร์สั้นเข้าประกวดได้จากเว็บไซต์ ศาลปกครอง www.admincourt.go.th หรือขอรับใบสมัครได้ที่สำนักงานศาลปกครองในวันและเวลาราชการ ผู้สมัครต้องส่งเอกสารการสมัครทั้งหมดด้วยตนเองโดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2556 ถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 ที่สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลปกครอง ในวันและเวลาราชการ ภาคเช้าเวลา 08.30 – 12.00 น. ภาคบ่ายเวลา 13.00 – 16.30 น. หรือส่งเอกสารทางไปรษณีย์ลงทะเบียนมาที่สำนักประสัมพันธ์ สำนักงานศาลปกครอง ชั้น1 เลขที่ 120 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 วงเล็บมุมซองว่า โครงเรื่องประกวดภาพยนตร์สั้นศาลปกครอง ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลปกครอง เลขที่เลขที่ 120 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 หมายเลขโทรศัพท์ 02 – 1411170 – 71 หรือที่สายด่วนศาลปกครอง 1355

------------------------------------------
ภาวิณี เรือนนาค/ข้อมูล
28 ต.ค.56

ประชาสัมพันธ์จังหวัดหนุนกระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศภาพคำเตือน 85%

          (วันนี้ 25 ตุลาคม 2556) มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ร่วมกับ กรมประชาสัมพันธ์ จัดการสัมมนา เรื่อง “ร่วมกันสร้างสังคมไทยให้ปลอดบุหรี่”โดยมีนายประวิน พัฒนะพงษ์ รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมหัวหน้าประชาสัมพันธ์จังหวัดและผู้แทน 25 จังหวัด ร่วมหนุนกระทรวงสาธารณสุขในการออกประกาศภาพคำเตือนบนซองบุหรี่ 85% และจะร่วมกันสร้างความเข้มแข็งในการควบคุมการบริโภคยาสูบเพื่อปกป้องสุขภาพของคนไทย
          นายประวิน พัฒนะพงษ์ รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์กล่าวว่า นักประชาสัมพันธ์จังหวัดถือเป็นบุคคลและเป็นสื่อมวลชนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะสื่อสารข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ไปยังประชาชนทั่วประเทศการที่นักประชาสัมพันธ์จังหวัดได้มารวมพลังกันในงานนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่นักประชาสัมพันธ์จะพัฒนางานด้านการประชาสัมพันธ์ และสนับสนุนองค์ความรู้ต่าง ๆ ลงสู่ชุมชนให้มากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการสูบบุหรี่ในชุมชน ให้เกิดความต่อเนื่องยั่งยืน ทั้งนี้ข้อมูลล่าสุดจากการสำรวจพบว่าร้อยละ 70 ของคนไทยที่สูบบุหรี่ หรือ 9 ล้านคนจาก 12.5 ล้านคน อาศัยอยู่นอกเขตเทศบาล
          นายประวินกล่าวเพิ่มเติมว่า กรมประชาสัมพันธ์ ต้องดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 17 เมษายน 2555 ที่ให้กระทรวงวัฒนธรรม กรมประชาสัมพันธ์ และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปรับปรุงกฎหมายเพื่อห้ามมีฉลากสูบบุหรี่ และการส่งเสริมการตลาดด้วยวิธีประชาสัมพันธ์ความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ ทางภาพยนตร์ โทรทัศน์และสื่อมวลชนต่าง ๆ และมีมาตรการส่งเสริมให้บุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา นักร้อง เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สาธารณชน โดยการไม่สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ ทั้งนี้สถานการณ์การสูบบุหรี่ของคนไทยยังน่าเป็นห่วง โดยคนไทยสูบบุหรี่กว่า 12.5 ล้านคน เพศชายสูบบุหรี่ร้อยละ 45 และมีคนไทยเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ปีละ 50,710 คน และตนก็เห็นด้วยอย่างยิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศการเพิ่มคำเตือนบนซองบุหรี่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะการใช้ภาพที่มีขนาดใหญ่รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้และตระหนักถึงอันตรายจากการสูบบุหรี่ถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างดียิ่ง
          ด้าน ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่าจากการที่บริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ ได้พยายามสกัดกั้นมาตรการควบคุมการบริโภคยาสูบของกระทรวงสาธารณสุข โดยดำเนินการฟ้องต่อศาลปกครองให้ทุเลาและยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดให้เพิ่มขนาดภาพคำเตือนบนซองบุหรี่เป็น 85% นั้น ตนอยากฝากให้ประชาสัมพันธ์จังหวัดทุกแห่ง ช่วยกันเผยแพร่ข้อมูล การรณรงค์ให้ความจริงแก่สังคมและองค์กรต่างๆ ให้ตระหนักถึงกลยุทธ์ของบริษัทบุหรี่ ที่เข้ามาสกัดกั้นมาตรการเรื่องการเพิ่มขนาดคำเตือนบนซองบุหรี่ โดยอ้างว่ามาตรการของกระทรวงสาธารณสุขก่อความเสียหายแก่บริษัท ทั้งๆ ที่บริษัทเหล่านี้หาประโยชน์และทำกำไรจากการขายบุหรี่ ที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเป็นสินค้าที่นำมาซึ่งโรคภัยร้ายแรง และก่อความสูญเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล
          ด้านน.ส.บังอร ฤทธิภักดี ผู้อำนวยการเครือข่ายควบคุมการบริโภคยาสูบในอาเซียน กล่าวว่าการเพิ่มขนาดคำเตือนเป็น 85%เป็นมาตรการที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อประเทศไทย หากเราตั้งใจที่จะปกป้องลูกหลานของเราไม่ให้ตกเป็นทาสของบุหรี่ โดยขณะนี้มีเด็กไทยเริ่มสูบบุหรี่ปีละ 250,000 คน หรือวันละ 685 คน ซึ่งหากติดบุหรี่แล้ว มีเพียงร้อยละ 27 เท่านั้นที่สามารถเลิกได้ก่อนที่จะป่วย ที่เหลือจะสูบต่อไปจนป่วยและตาย ซึ่งจากข้อมูลศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการขยายภาพคำเตือนบนซองบุหรี่ เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า ทั้งผู้สูบบุหรี่ ผู้เคยสูบแต่เลิกแล้ว และผู้ไม่สูบบุหรี่ ถึงร้อยละ 79.2 เห็นด้วยกับการขยายภาพคำเตือน โดยประชากรกลุ่มที่สูบบุหรี่มีความเห็นว่า ภาพคำเตือนขนาด 85%มีประสิทธิผลสูงกว่าขนาด 55%ในทุกๆ ด้าน อาทิ ทำให้คิดถึงอันตรายและพิษภัยของบุหรี่ ทำให้รู้สึกว่าตนเองเสี่ยงที่จะเป็นโรคตามภาพคำเตือน ทำให้คิดที่จะเลิกสูบ ทำให้พยายามที่จะเลิก ทำให้ตัดสินใจลงมือเลิก และทำให้สูบน้อยลง ในขณะที่ในกลุ่มผู้ที่เคยสูบบุหรี่แต่เลิกแล้วกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ การเพิ่มภาพคำเตือนจาก 55%เป็น 85%ทำให้คิดถึงอันตรายและพิษภัยบุหรี่เพิ่มขึ้น และทำให้ไม่คิดที่จะสูบบุหรี่สูงขึ้น
          ศ.นพ.ประกิต กล่าวทิ้งท้ายว่า มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ขอบคุณกรมประชาสัมพันธ์เป็นอย่างยิ่งที่ร่วมรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่มาอย่างต่อเนื่อง และการสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นการสัมมนานักประชาสัมพันธ์จังหวัดครั้งที่สองแล้วโดยนักประชาสัมพันธ์จังหวัดและผู้แทนเข้าร่วม จำนวน 26 คน จากจังหวัดกำแพงเพชร ชัยภูมิ ชุมพร ตราด ตาก นครปฐม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นราธิวาส น่าน ปัตตานี พังงา พิษณุโลก มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด ระนอง ระยอง สมุทรสงคราม สระบุรี สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุทัยธานี และอุบลราชธานี

ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โทร.081-822-9799
น.ส.บังอร ฤทธิภักดี ผู้อำนวยการเครือข่ายควบคุมการบริโภคยาสูบในอาเซียน (SEATCA) โทร.081-255-1280
---------------------------------------
ภาวิณี เรือนนาค/ข้อมูล
25 ต.ค.56

วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอ่างทอง ขอเชิญผู้สนใจเข้ารับการสสรหาเป็นกรรมการ ป.ป.จ.

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอ่างทอง ขอเชิญบุคคลที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ที่ประสงค์จะสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด (กรรมการ ป.ป.จ.) โดยผู้สนใจสามารถยื่นใบสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการ ป.ป.จ. พร้อมทั้งแสดงผลงานและหลักฐาน ได้ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม 2556 ถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2556 ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)  ณ ห้องประชุมป่าโมก ศาลากลางจังหวัดอ่างทอง ชั้น 2 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 035-613822-3
----------------------------------------
ภาวิณี เรือนนาค/ข้อมูล
25 ต.ค.56

วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ขยายเวลาประกาศพื้นที่ ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายใน

     ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ ได้ประกาศให้พื้นที่บางส่วนของเขต พระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รวมทั้งประกาศและข้อกำหนดที่ออกตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.๒๕๕๑ ระหว่างวันที่ ๙ – ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ เพื่อมิให้มีการปลุกระดมมวลชนเข้าร่วมกระทำการที่มีลักษณะฝ่าฝืนกฎหมาย นั้น
     คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ เห็นชอบให้ขยายเวลาประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่บางส่วนของเขตพระนคร เขตป้อมศัตรูพ่าย และเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ จึงประกาศให้ทราบทั่วกัน /*

วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ขยายระยะเวลาการยื่นคำร้องเพื่อลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง

     กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งว่าคณะทำงานช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมสำหรับผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ.2548-2553) โดยได้ประกาศไปแล้วจำนวน 4 ครั้ง และแจ้งให้จังหวัดปิดประกาศรายชื่อผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายฯ ดังกล่าวที่บริเวณศาลากลางจังหวัด และมอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเป็นหน่วยงานรับคำร้องขอรับเงินเยียวยา จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2556 นั้น แต่เนื่องจากได้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ประชาชนไม่สามารถไปยื่นขอรับเงินได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด จึงให้ขยายระยะเวลาการยื่นคำร้องเพื่อลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาจากเดิม ออกไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2556 โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง ฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย โทร.035-616263
------------------------------------------------
ภาวิณี เรือนนาค/ข้อมูล
22 ต.ค.56

แจ้งรายชื่อโรงสีที่เปิดจุดจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57

สำนักงานการค้าภายในจังหวัดอ่างทอง แจ้งรายชื่อโรงสีที่เปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 นาปี ครั้งที่ 1 ระยะเวลารับจำนำตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 - 28 กุมภาพันธ์ 2557 จำนวน 5 แห่ง ได้แก่
1. บริษัทสตาร์การเกษตร จำกัด  เลขที่ 98/1 หมู่6 ตำบลท่าช้าง อำเภอวิเศษชัยชาญ
2. บริษัทพัชรนันท์ค้าข้าว จำกัด  เลขที่ 30/1 หมู่ 4 ตำบลท่าช้าง อำเภอวิเศษชัยชาญ
3. หจก.ศรีทองดีธัญญากิจ  เลที่ 33 หมู่ 6 ตำบลราษฎร์พัฒนา อำเภอสามโก้
4. โรงสีสามโก้เจิญธัญญา  เลขที่ 9 หมู่ 6 ตำบลสามโก้ อำเภอสามโก้
5. บริษัทเพชรสยามพิพัฒน์ธัญญา เลขที่ 1 หมู่ 2 ตำบลหนองแม่ไก่ อำเภอโพธิ์ทอง

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานการค้าภายในจังหวัดอ่างทอง โทร.035-614972
------------------------------------------------------
ภาวิณี เรืือนนาค/ข้อมูล
22 ต.ค.56

24 -25 ตุลาคม 2556 หน่วยแพทย์เคลื่อนที่จากสำนักงานบรรเทาทุกข์ และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ให้บริการตรวจรักษาโรคฟรี

     หน่วยแพทย์เคลื่อนที่จากสำนักงานบรรเทาทุกข์ และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย จะมาให้บริการประชาชนทั่วไป วันที่ 24 -25 ตุลาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 09.00น. โดยในวันที่ 24 ตุลาคม 2556 มีบริการประชาชนด้านตรวจโรคทั่วไป และตรวจรักษาฟื้นฟูโรคทางกล้ามเนื้อและข้อ และวันที่ 25 ตุลาคม 2556ให้บริกหารประชาชนทั่วไปด้านการฝังเข็มประยุกต์ ณ ศูนย์สภากาชาดไทยเวชพาหน์เฉลิมพระเกียรติ หมู่ที่ 9 บ้านสามเรือน ตำบลบางจัก อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง (รักษาฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาล ตำบลบางจัก ทางหมายเลขโทรศัพท์ 035-669466 และ 035-669241 ในวันและเวลาราชการ
-----------------------------------------
ภาวิณี เรือนนาค/ข้อมูล
22 ต.ค.56

ขอความร่วมมือสนับสนุนสมุดบันทึกแม่บ้านมหาดไทย ประจำปี 2557

ตัวอย่างปกสมุดบันทึกแม่บ้านมหาดไทย (บันทึกดอกแก้ว) ประจำปี 2557

     นางมลสุดา ชานิประศาสน์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดอ่างทอง ได้รับแจ้งว่าสมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้จัดทำสมุดบันทึกแม่บ้านมหาดไทย ประจำปี 2557 เพื่อให้สมาชิกแม่บ้านมหาดไทยทั่วประเทศใช้เป็นสมุดบันทึกประจำวัน และใช้ประโยชน์ติดต่อประสานงานกับสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและระหว่างสมาชิกด้วยกัน
     จึงขอเชิญชวนภริยา ข้าราชการ สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทย ตลอดจนผู้สนใจ สั่งซื้อสมุดบันทึกแม่บ้านมหาดไทย ประจำปี 2557 ในราคาเล่มละ 250 บาท โดยสามารถสั่งซื้อได้ที่สำนักงานจังหวัดอ่างทอง กลุ่มงานอำนวยการ โทรศัพท์ 035-611235
-----------------------------------------
ภาวิณี เรือนนาค/ข้อมูล
22 ต.ค.56

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ขอเชิญชวน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน ส่งคำขวัญเข้าประกวด เนื่องในโอกาศวันครู 2557

   ในโอกาสการจัดงานวันครู ครั้งที่ 58 วันที่ 16 มกราคม 2557 โดยกำหนดวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ “พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน” ระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ และส่งเสริมเชิดชูเกียรติวิชาชีพครู รวมไปถึงเพื่อส่งเสริมความสามัคคีธรรม ความร่วมมือและความเข้าใจอันดีระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษากับประชาชน ในการพัฒนาการศึกษาของชาติและสังคม เพื่อธำรงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ และเพื่อส่งเสริมให้ครู นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน มีส่วนร่วมในกิจกรรมงานวันครู
     คุรุสภาขอเชิญชวน นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ส่งคำขวัญวันครู พ.ศ. 2557 เข้าประกวดเพื่อชิงเงินรางวัล พร้อมโล่เกียรติยศพระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือเกียรติบัตร รางวัลชนะเลิศ มี 1 รางวัล เงินสด 10,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ รางวัลรองชนะเลิศ มี 2 รางวัล เงินสดรางวัลละ 7,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร และรางวัลชมเชย มี 10 รางวัล เงินสดรางวัลละ 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
     ผู้สนใจสามารถส่งคำขวัญเข้าประกวดได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 ในวันและเวลาราชการ และจะประกาศผลให้ทราบภายในเดือน ธันวาคม 2556
     ผู้ที่สนใจเข้าประกวด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มยกย่องวิชาชีพ โทรศัพท์ 0 2281 4843 หรือ www.ksp.or.th
---------------------------------------
ภาวิณี เรือนนาค/ข้อมูล
10 ต.ค.56

วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

โครงการจัดสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "ทรงงาน" (จำลอง)

     

     นายวิศว ศะศิสมิต ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า มูลนิธิ คิง เพาเวอร์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพระบรมราชานุญาต เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ในการจัดสร้างจัดสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ทรงงาน” (จำลอง) ขนาดความสูง 60 เซนติเมตร องค์หล่อด้วยสำริด น้ำหนักรวมประมาณ 7 กิโลกรัม เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมบริจาคเงิน 50,000 บาท รับพระบรมรูปฯ 1 องค์ โดยจัดสร้างจำนวน 9,999 องค์”  เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมเฉลิมพระเกียรติและเผยแพร่พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องการทรงงานแก่พสกนิกรชาวไทย ผู้สนใจสามารถสั่งจองและร่วมบริจาค สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ King Power Call Center 0-2677-8899 (ทุกวัน ระหว่างเวลา 09.00-21.00 น.) และทางเว็บไซต์ www.kingpowerfoundation.com
----------------------------------
ภาวิณี เรือนนาค/ข้อมูล
1 ต.ค.56